มีคนชอบถามกันเยอะว่า ทำไมเราถึงต้องมาปาย
คำตอบคือ…..
บอกก่อนว่า เราไม่คิดว่า ในชีวิตนี้ต้องมาอยู่ปายเท่านั้นคือสุดยอด ใครไม่มาปายไม่เท่
เราเชื่อว่าอยู่ที่ไหนก็ได้ ในมุมใดมุมหนึ่งของโลก ที่ตรงกับความสุขของตัวเอง เราชอบที่คน ๆ หนึ่งที่เข้าใจตัวเอง ไม่หม่น ไม่หลง ไม่มีความสุขโอเวอร์ ไม่สับสน แต่มีความสนุกในกิจกรรมที่ตัวเองชอบแบบไม่โง่ ฉลาดคิด และล้ำ ยิ่งมีความสุขแบบง่าย ๆ แล้วอยู่ได้แบบสบาย ๆ จิตใจปลอดโปร่ง เห็นแล้วจะอิจฉา
ในตอนนั้น ตอนที่เราอายุ 28 เราคิดแค่ว่า เรากำลังไม่มีความสุขกับชีวิตแบบคนเมือง เราอยากใช้ชีวิตแบบที่คนเรียกร้องอยู่ในใจว่า อยากสบาย อยากอิสระ อยากทำสิ่งที่อยาก
และเราก็ไม่ห่วงว่าเราจะอดตาย เพราะเราคิดว่า เราจบปริญญาตี ความรู้เยอะแยะ
แล้วเรายังทำก๋วยเตี๋ยวได้ ขายอาหารได้ คนเรามันต้องกินข้าวกันบ้างน่ะ
แต่แล้ว ผ่านมา 11 ปี เราก็ไม่ได้ขายก๋วยเตี๋ยวสักที เลยไม่ได้โชว์ฝืมือ
ที่มาอยู่ปายได้นี่ เป็นเรื่องของความบังเอิญ เป็นชะตากรรมมั้ง
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่กำลังคิดเรื่องว่า จะลาออกจากงานมาเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ขายแซนด์วิช อาหารเช้า บวก ร้านหนังสือ ยังเคยคิดจะตั้งชื่อร้านว่า ร้านกาแฟแต่ขายหนังสือ
แต่คิดเรื่องงบประมาณแล้วสูงมาก จะขายหนังสือต้องมีเงินเป็นแสน แล้วยังเสี่ยงต่อการอ่านหนังสือน้อยของคนไทยอีก กำลังคิดว่า จะลงมือทำหรือไม่นั่นเอง
จังหวะนั้น ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังมาที่อพาร์ทเม้นท์
เขาคือ โจเล็ก เขากำลังโทรมาลาว่า จะไปอยู่ปาย จะไปเปิดร้านกาแฟที่ปาย
เราก็เลยนัดเจอกันที่ถนนข้าวสาร ก็สรุปกันว่า แทนที่จะเลี้ยงส่งโจเล็ก เฮียกนกะเราก็เลยตัดสินใจกันว่า จะลองไปอยู่ด้วย เพราะกำลังคิดว่า จะเปิดร้านกาแฟพอดี
เรื่องจึงเป็นเช่นนี้
ณ เวลานี้ ปาย เป็นบ้านเกิด บ้านนอน ของเราไปแล้ว ไม่รู้สึกเลยว่า จะต้องกลับกรุงเทพอีก ตั้งแต่อยู่ปายมาก็กลับกรุงเทพฯ จริง ๆ แค่ 3-4 ครั้ง
Technorati Tags: ปาย, การใช้ชีวิต, ร้านมิตรไทย
ไฟน์ชอบปายนะ แต่ถ้าให้อยู่คงไม่อ่ะพี่
ชอบอ่าน
ทุกคนจะมีที่สุดยอดของตัวเอง
มันดีเท่ากันหมดทุกที่
แล้วแต่จริตของใครจะถูกกับที่ไหน
เหมือนโชคชะตาเนอะพี่
บางทีการได้ไปอยู่เหมือนชั่วคราวแต่พออยู่ๆ ไป
อย่างที่พี่ว่า ถูกกับที่ไหน
ผมชอบทะเลนะพี่ แต่ที่ๆ เลือกอยู่
แม้มันจะไม่ใช่ทะเลที่เจ๋งอะไร
แต่มันก็ลงตัวในการอยู่และใช้ชีวิต
เรื่องแบบนี้ ต้องใช้ตัวเองวัด ใช่ไหมครับ!
ถูกต้องนะคร๊าบบ
เราอยากให้ทุกคนได้อยู่ในที่ ๆ ตัวเองชอบ
มันทำได้ ทำได้จริง ๆ จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่าย ก็ง่าย
อย่าไปโทษเรื่องฐานะ เรื่องภาระทั้งหลายเลย
ถ้าเรามีความมุ่งมั่นที่ไปให้ถึงฝัน
ค่อย ๆ ก้าวทีละก้าว อย่างมั่นคง มุ่งมั่น โดยไม่ได้เอาเปรียบใคร
มันก็จะถึงยอดเขาถึงจะเป็นปีก็ตาม
ก็เหมือนที่ตี่เดินขึ้นยอดเขาที่เนปาล
เราทุกคนก็ต้องเดินจากพื้นราบ
ไอ้ทีละก้าวนี่แหละ มันถึง
แต่ระหว่างทาง ก็ต้องมีเหนื่อย มีน้ำตา มีรอยยิ้ม
มีประสบการณ์กับเพื่อนระหว่างทาง มีศัตรู มีความท้อแม้ มีคำถาม
แต่ถ้าเรามุ่งมั่น ไม่สงสัย และมีความสุขกับเรื่องง่าย ๆ
ความฝีนทุกฝีน ถึงแน่ ๆ
ส่วนใหญ่ที่เราเห็น คนชอบบ่นว่าไปไม่ถึงฝัน
มักเป็นคนที่ขี้ท้อแท้ ไม่เอาจริง ฝันไปเรื่อย
มีความสุขที่วัตถุ ต้องมีเงินเท่านี้ก่อน ต้องมีรถก่อน ต้องมีบ้านก่อน
พวกนี้เป็นต้น
แล้วเพื่อนพี่อีกสองคนที่ไปด้วยกันหล่ะพี่กั๋ม
ตอนนี้เค้าเป็นยังไงบ้าง
ยังอยูปาย ป่าวอ่ะ
คนนึงก็มาอยู่ได้ 8 เดือนแล้วก็รู้สึกว่าไม่ใช่ปายก็กลับไปอยู่กรุงเทพ
อีกคนก็กลายมาเป็นสามีไงเล่า
อ่าว…คนที่กลับมากุงเตพนี่คนที่ไปลาพี่แล้วมาต่อกันที่ข้าวสารรึป่าวอ่ะ
โธ่ ไฟน์ คำถามนี้มันง่ายมั่กมั่ก
ก็ใช่ดิฟะ